พวงแสด
          พวงแสด เป็นชื่อไทย คนบ้านไกลเค้าเรียก “Flame Vine หรือจะ “หลังคาไฟ ก็มีหลายปากเรียกขาน มีปลูกมากทางภาคเหนือ ชอบอากาศหนาว เป็นไม้เถาเลื้อย ก้านเหลี่ยม ดูไกลๆ สีออกส้ม ดูใกล้ๆ มีเหลืองตัดขอบ คล้ายเปลวไฟสมชื่อ พวงแสดเป็นดอกไม้ประจำ จ.เชียงราย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pyrostegia Venusta (Ker-Gawl.) Miers
วงศ์ : BIGNONIACEAE
ชื่อสามัญ : Orange Trumpet, Flame Flower, Fire Cracker Vine
ชื่ออื่นๆ : พวงแสดเครือ
ถิ่นกำเนิด : บราซิลและอาเจนตินา
ประเภท : พวงแสดเป็นพันธุ์ไม้เถาเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยเกาะไปได้ไกลมากกว่า 40 ฟุต
ลักษณะทั่วไป :
          ต้น : ไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง อายุหลายปี กิ่งก้านเป็นเหลี่ยม เถาอ่อนจะเป็นสีเขียวและเมื่อแก่ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาล
          ใบ : พวงแสดเป็นไม้ที่มีใบกลายเป็นมือสำหรับยึดเกาะ ลักษณะใบของพวงแสดจะเป็นใบประกอบ มี 3 ใบย่อย แต่จะมีบางใบที่เป็นคู่โดยใบย่อยที่สามที่อยู่ตรงกลางจะเปลี่ยนจากใบไปเป็นมือเกาะใบจะออกสลับกัน ใบมีสีเขียวเข้ม ก้านใบสั้นเกือบชิด กิ่งใบเป็นรูปไข่ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบไม่มีจัก ใบมีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร
          ดอก : พวงแสดจะออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ และตามปลายกิ่งส่วนยอดดอกจะดกมากจนดูแน่นช่อมีกลีบรองดอกเป็นรูปถ้วย หรือรูปกระดิ่งหงายดอกเป็นรูปทรงกรวย เรียวยาว ปลายดอกจะบานออกเป็น 4 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่กลีบดอกจะงอโค้งลงข้างล่าง ดอกจะยาวประมาณ 5-6 เซนติเมตร ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ 4 อัน สั้นยาวไม่เท่ากัน คือจะสั้น 2 อันและยาวอีก 2 อัน มีเกสรตัวเมีย 1 อัน ซึ่งจะอยู่ตรงกลาง เกสรตัวเมียมีสีตองอ่อน และจะยาวกว่าเกสรตัวผู้
          ผล : ผลแห้งแตก เป็นฝักยาว 15-20 เซนติเมตร เมล็ดกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3.5 เซนติเมตร
ฤดูการออกดอก : พวงแสดจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมของทุกปี
การขยายพันธุ์ : โดยการตอนและการปักชำกิ่ง
          - การปลูกพวงแสดทำได้โดยการนำกิ่งที่ได้จากการปักชำหรือการตอนกิ่งมาปลูกลงหลุม โดยขุดหลุมให้มีความกว้าง ลึก ประมาณ 2x1.5 ฟุต แล้วใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม แล้วผสมดินกับมูลสัตว์หรือขี้ค้างคาว คลุกให้เข้ากันใส่ลงในหลุมปลูกนำกิ่งที่จะปลูกวางลงกลางหลุมแล้วกลบดินรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา : พวงแสดปลูกได้ในดินทั่วไป มีความชื้นปานกลาง แสงแดดเต็มวัน ถ้าอากาศเย็นจะให้ดอกดก
          แสง : พวงแสดเป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้งที่ชองแสงแดดจัด และสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดีพอสมควร
          น้ำ : การให้ให้พวงแสด เมื่อต้นโตและแข็งแรงดีแล้ว ให้รดน้ำวันเว้นวันก็ได้ เพราะพวงแสดไม่ต้องการน้ำมาก
          ดิน : ดินสำหรับปลูกพวงแสด ควรเป็นดินร่วนที่มีส่วนผสมของปุ๋ยธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์หรืออื่น ๆ อยู่บ้างก็จะทำให้พวงแสดเจริฐเติบโตได้ดี
          ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ในการผสมดิน ปลูก เช่น ขี้ค้างคาว เป็นต้น และเมื่อต้นโตใกล้ถึงช่วงออกดอกก็ให้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สำหรับเร่งดอกบ้างตามสมควร
การใช้ประโยชน์ : การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) ดอกสวย มีสีสัน ปลูกขึ้นซุ้มหรือปลูกข้างรั้ว ริมถนน ทางเดิน ถ้าอากาศเย็นจะให้ดอกดก สวย มักทิ้งใบในฤดูร้อน